ทำไมชุดดับเพลิงที่สวมใส่สบายตัวจึงจำเป็น

ความปลอดภัยของพนักงานนั้นไม่ใช่เรื่องที่จะแค่ทำลวกๆเพื่อให้แค่ผ่านเงื่อนไขการป้องกันก็พอแล้ว ปัจจัยต่างๆอย่างการหลีกเลี่ยงภาวะ Heat stress หรือ ภาวะความเครียดที่เกิดจากความร้อนเมื่อร่างกายไม่สามารถระบายความร้อนได้ดีเท่าที่ควร และการทำให้รูปแบบการทำงานปลอดภัยและเหมาะสมนั้นกำลังได้รับความสำคัญมากขึ้นในขั้นตอนการเลือกชุดป้องกันมาปกป้องคนทำงาน และความสบายตัวของคนงานใน Personal Protective Equipment (PPE) ของพวกเขานั้น เช่น เสื้อกันไฟ (Flame-resistant: FR) ที่มองเห็นได้อย่างชัดเจนเองก็กำลังได้รับการพิจารณาเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก

ในอดีตนั้นตัวเลือกมีอยู่จำกัดและเนื้อผ้าส่วนมากเองก็ร้อน หนักและไม่พอดีตัว โชคดีที่นวัตกรรมการผลิตสิ่งทอและชุดป้องกันทำให้เรามีชุดป้องกันที่มีน้ำหนักเบา อากาศถ่ายเทสะดวก มีคุณสมบัติมอยส์เจอร์-วิกกิ้ง (Moisture-wicking) และแห้งไว นวัตกรรมเหล่านี้ถูกนำมาผสมผสานกับสีสันที่เตะตา มองเห็นได้อย่างชัดเจนและคุณสมบัติการป้องกันไฟเพื่อให้เกิดเป็นชุดป้องกันภัยอเนกประสงค์

เนื้อผ้าชุดดับเพลิงที่ใช้ในอุตสาหกรรมนั้นมีประโยชน์ใช้สอยพื้นฐานอยู่สามแบบ:

เพลิงไหม้ฉับพลัน: ชุดนี้ใช้โดยคนงานในโรงกลั่น และโรงงานที่เต็มไปด้วยฝุ่นที่สามารถติดไฟได้ รวมถึงผู้ทำงานเกี่ยวกับน้ำมันและแก๊ส ชุดกันไฟระดับการกันเพลิงไหม้ฉับพลัน (Flash fire-rated: FFR) นั้นถูกออกแบบให้เป็นชุดทำงานที่ต้องสวมใส่สะดวกสบายและคงทนในการทำงานเป็นประจำทุกวันและอาจจะต้องเจอกับเปลวไฟอย่างฉับพลันขึ้นมาในบางเวลา ความสามารถในการกันไฟอย่างทนทานนั้นสำคัญ แต่ความสบายในการสวมใส่เองสำคัญเป็นอย่างยิ่งเช่นเดียวกัน

ไฟอาร์ค: คนงานอิเล็คทรอนิกส่วนมาก ช่างไฟและนักเทคนิกทุกคนที่ทำงานเกี่ยวกับสายไฟนั้นจำเป็นต้องใช้ชุดป้องกันระดับอาร์ค (Arc-rated: AR) เช่นเดียวกับชุดป้องกันระดับ FR ชุดป้องกันเหล่านี้เป็นชุดทำงานปกติที่ครั้งหนึ่งอาจจะได้ประสบกับการเกิดไฟอาร์ค พวกมันยังต้องกันความร้อนได้และสวมใส่สบายอีกด้วย

การดับเพลิง: การดับเพลิงอาคารและดับไฟป่านั้นจำเป็นต้องใช้เนื้อผ้าที่กันไฟโดยพื้นฐานอยู่แล้วเนื่องจากต้องโดนไฟอย่างต่อเนื่องและต้องทนทานในการทำงานภาคสนาม ชุดป้องกันเหล่านี้นั้นจะโดนความร้อนและเปลวไฟอยู่บ่อยครั้ง ทำไมความสบายตัวจึงสำคัญเมื่อเลือก PPE

หนึ่งในข้อเสียที่คนงานพากันบ่นถึง PPE มากที่สุดคือมันสวมใส่ไม่สบายตัวเอาเสียเลย พวกเขามักจะใส่ชุดป้องกันกันมากกว่าถ้าหากมันใส่แล้วสบายตัว ใส่ง่าย และไม่ขัดขวางการทำงานของพวกเขา เทคโนโลยีใหม่ๆแก้ปัญหานี้และทำให้ชุดป้องกันมีน้ำหนักเบา อากาศถ่ายเทได้ดี และ มอยส์เจอร์-วิกกิ้ง ไม่ทำให้ลดความปลอดภัยของคนงานลง

น้ำหนักเบา: ชุดป้องกันที่หนักและหนามากนั้นสามารถทำให้พนักงานเหงื่อออกมากขึ้นและเกิดอาการโอเวอร์ฮีทได้ง่าย เพิ่มความเสี่ยงของการเกิด heat stress และความเจ็บป่วยอื่นๆที่เกิดจากความร้อน นวัตกรรมล่าสุดของใยกันไฟและใยผสมนั้นทำให้ผู้ผลิตสามารถผลิตเครื่องแต่งกายจากผ้าน้ำหนักเบาเพื่อลดภาระด้านน้ำหนักให้ผู้ใส่ได้

อากาศถ่ายเทได้ดี: ข้อเสียที่มักจะพบได้บ่อยครั้งเกี่ยวกับ PPE คือมันมักจะกักเก็บความร้อนไว้ใกล้กับร่างกายของคนงาน ในเขตอากาศอบอุ่นหรือสถานที่ที่มีความร้อนสูงนั้น เรื่องนี้สามารถกลายเป็นปัญหาหลักด้านความปลอดภัยได้เนื่องจากมันจะนำไปสู่ heat stress ทุกวันนี้ชุดป้องกันที่อากาศถ่ายเทนั้นช่วยลดภัยที่เกิดจากความร้อนได้โดยการปล่อยให้ร่างกายระบายความร้อนได้เองตามธรรมชาติ

มอยส์เจอร์-วิกกิ้ง (Moisture-wicking): การผสมผสานไฟเบอร์กันน้ำที่ถูกสังเคราะห์ขึ้นและใยที่มีคุณสมบัติดูดซับน้ำจากธรรมชาตินั้นทำให้เกิดการ มอยส์เจอร์-วิกกิ้ง (Moisture-wicking) จากคุณสมบัติที่ค่อนข้างตรงกันข้ามกันของไฟเบอร์ทั้งสองประเภทนี้นั่นเอง

ชุดป้องกันที่ไม่สบายตัวนั้นไม่เพียงแต่จะเพิ่มอัตราการเกิดเหตุไม่คาดฝันเท่านั้น แต่ยังจะส่งผลเพิ่มค่าใช้จ่ายของบริษัทด้วย ภาระที่เพิ่มขึ้นในสมุดใบสั่งจ่ายของบริษัทนับเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น อุบัติเหตุและอาการบาดเจ็บนั้นก็ทำให้พนักงานที่ได้รับอุบัติเหตุและครอบครัวของเขาต้องแบกรับค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นด้วย การลงทุนเล็กๆน้อยๆในเรื่องความสบายตัวนั้นจะช่วยเหลือในการกำจัดสิ่งรบกวนและช่วยป้องกันอุบัติเหตุในระยะยาวได้

แหล่งที่มา: https://ohsonline.com/Articles/2015/03/01/Durable-Flame-Resistance.aspx

https://www.safeopedia.com/why-comfortable-flame-resistant-high-visibility-safety-apparel-is-important/2/6983

บริษัท ครอสเท็คซ์ จำกัด เป็นผู้นำเข้ารายเดียวของประเทศไทยและจัดจำหน่าย เครื่องกำจัดไวรัส รุ่น ck1000 เหมาะในการฆ่าเชื้อ ได้ถึง 99.99%

Contact

9/54 Soi SuanSiam 24 sub 2, Kannayao Bangkok 10230 Thailand

Add Friend